องค์การเภสัชฯขอจบข่าวคืนยาพารา130ตัน


วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 11:25 น.

กรณี “เดลินิวส์”นำเสนอข่าวโรงงานเภสัชกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (รภท.ศอพท. ) ตรวจวิเคราะห์วัตถุดิบในการผลิตยาพาราเซตามอล ให้กับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) หลายล็อตมีปัญหาต้องส่งเคลมบริษัท โดยปี 2554-2555 พบวัตถุดิบมีปัญหา 19 ล็อตจาก 2 บริษัท  แต่ อภ.ยืนยันว่า ไม่ได้นำวัตถุดิบที่มีปัญหามาผลิตยาขอให้ผู้บริโภคมั่นใจ ขณะเดียวกัน อภ.ได้สต๊อกวัตถุดิบกว่า 130 ตัน  ตั้งแต่ปี 2554 จน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ลงไปตรวจดูวัตถุดิบซึ่งส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่คลัง สินค้าบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพกว่า 200 ถัง โดยนัดเปิดถังวัตถุดิบที่ อภ.ในเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ก.พ. นั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ ( 15 ก.พ.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้แจ้งว่า วันนี้ไม่มีการเปิดวัตถุดิบที่ อภ. เพราะทาง อภ.ได้ตัดสินใจคืนของหมดแล้ว ถ้าเปิดฝาถังแล้วจะคืนของไม่ได้ เพราะไม่ใช่ตรวจแค่ 1-2 ถังแต่ตรวจจำนวนมาก
“ทั้งนี้ อย.คงต้องกำกับดูต่อว่าวัตถุดิบนั้นคืนแล้วหรือยัง  คืนเมื่อไหร่ อย่างไร ทาง อย.คงต้องมอนิเตอร์ส่วนนี้ ขณะเดียวกันเราจะดูว่าในล็อตที่นำเข้ามาทั้งหมดนำไปผลิตบ้างหรือเปล่า  ถ้านำไปผลิตเป็นยาแล้ว คงต้องตามไปดูในท้องตลาด ไปสุ่มมาตรวจดู ”นพ.บุญชัย กล่าว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ. ) กล่าวว่า อภ.ตัดสินใจคืนวัตถุดิบทั้งหมดแล้วเพื่อตัดปัญหาจะได้จบ ตรงนี้เป็นอำนาจของ ผอ.อภ.เพราะวงเงินไม่ถึง 100 ล้านบาท ทั้งนี้ก็ให้หลักการ อภ.ไปว่าเมื่อวัตถุดิบบางล็อตมีปัญหาประชาชนไม่เชื่อมั่นก็อย่าไปเสี่ยง ไปเสียดายเล็ก ๆ น้อย ๆ เดี๋ยวจะเข้าสูตรเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย
“ทาง ผอ.อภ.ก็มาขอคำแนะนำเรื่องนี้ ผมก็ได้บอกไปว่าคืนได้ก็คืน มันจะได้จบเรื่อง  อะไรที่ไม่ควรเสี่ยงก็อย่าเสี่ยง ไม่จำเป็นต้องมาเปิดดู เพราะถ้าหากเปิดถึงวัตถุดิบแล้วจะคืนลำบาก บริษัทอาจเกี่ยงงอนได้ ถ้าบริษัทไม่ได้อยู่ด้วย ผมก็บอกว่าอย่าไปทำเลย จบ” นพ.พิพัฒน์ กล่าว
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.อภ. กล่าวว่า ได้คุยกับทางบริษัทที่จำหน่ายวัตถุดิบว่าถ้าข่าวเล่นไม่หยุด ชาวบ้านก็กังวล ดังนั้นเพื่อคลายความกังวล เนื่องจาก อภ.ยังไม่ได้นำวัตถุดิบมาผลิตยาพาราเซตามอล ตนก็ขอโทษเขาขออนุญาตคืนวัตถุดิบ คืนไปหมดเลย 130 กว่าตัน เมื่อถามว่าจะเริ่มคืนได้เมื่อไหร่ นพ.วิทิต กล่าวว่า ได้คุยกับบริษัทเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ก็ให้บริษัทไปเคลียร์พื้นที่ของเขาก่อน เพราะวัตถุดิบก็ทยอยเคลื่อนออกไป การคืนก็จะให้ อย.มาดูเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความสบายใจ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ผลิตสักเม็ด ตนไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ถ้าคืนขณะกำลังผลิตอยู่เป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้แต่เตรียมจะผลิตเท่านั้นเอง และของไม่ได้เสียหาย ไม่ใช่ว่าเสียหายจนผลิตไม่ได้
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า  อภ.ได้คืนวัตถุดิบในการผลิตยาพาราเซตามอลทั้งหมดแล้ว เนื่องจากหากสุ่มตรวจทุกถังที่บรรจุวัตถุดิบ 100% ตรวจแล้วต้องผลิตเลย ดังนั้นคงไม่ไหว สต็อกมี 130 กว่าตัน ใช้เดือนละ 10 ตัน จึงบอกกับทาง อภ.ไปว่าถ้าคืนวัตถุดิบได้ก็คืนไปเพื่อความมั่นใจดีกว่า แล้วเอาเงินคืนมา เพราะต้องไปตรวจในโรงงานและในห้องปฏิบัติการ
“ถ้าตรวจทุกถัง ขนทุกถังมาผลิตเลยคงเสียเวลา เจอล็อตหนึ่งก็ไม่มีใครอยากใช้แล้ว  ดังนั้นตัดปัญหาคืนได้ก็คืนไป การที่ อภ.ตัดสินใจคืนวัตถุดิบ มันก็จบส่วนการผลิต เพราะผมไม่อยากให้ผลิตอะไรที่มีปัญหา แต่ว่าเรื่องที่ให้อธิบายว่าซื้อมาเมื่อไหร่ อย่างไร เอาเวลาให้ดู เวลาที่ซื้อเหมาะสมหรือไม่ ที่บอกว่าเตรียมการผลิตนั้นทำไมโรงงานเปิดช้า เพราะอะไร ยังต้องอธิบายอยู่  อภ.ก็ยังติดหนี้ผมเรื่องคำตอบอยู่ คนละเรื่องกับเรื่องยา ” นพ.ประดิษฐ กล่าว
เมื่อถามถึงมูลค่าวัตถุดิบที่ อภ.สต๊อกกว่า 130 ตัน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า น่าจะประมาณ 20 กว่าล้านบาท ไม่ได้เยอะ ถูกจะตายพาราเซตามอลเม็ดละไม่เท่าไหร่ซึ่งวัตถุดิบกว่า 130 ตันได้ให้ อภ.เรียกคืนมาหมดแล้ว  ต่อข้อถามว่า ถ้า อภ.จะซื้อวัตถุดิบจากบริษัทในประเทศจีนที่โรงงานเภสัชกรรมทหารเคยตรวจพบ ปัญหาจะต้องไปตรวจรับรองใหม่ใช่หรือไม่ นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ตนบอกให้เลิกไปเลย แล้วไปหารายใหม่ รับรองใหม่ แล้วให้ อย.อธิบายว่า วัตถุดิบเข้ามาได้อย่างไร เพราะไม่มีใครรู้เนื่องจากนำเข้ามา 3 ปีแล้วตั้งแต่ปี 2553
ต่อข้อถามว่าเมื่อคืนวัตถุดิบแล้วไม่ต้องมีใครรับผิดชอบใช่หรือไม่ นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า อย่างเพิ่งใจร้อน ตนไม่ได้บอกว่าไม่มีใครรับผิดชอบ ให้ อภ.อธิบายก่อน ถ้าอธิบายแล้วสมเหตุผลก็ไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ ถ้าอธิบายแล้วไม่สมเหตุผลมันก็ต้องมีคำตอบ อย่าเพิ่งไปบอกว่าคนนี้ผิดคนนั้นถูก ถ้าอธิบายสมเหตุผลก็จบ ไม่สมเหตุผลก็เดินหน้าต่อ ถามไปเรื่อย ๆ ทำไมต้องทำอย่างนั้น ใครรับผิดชอบใครสั่งการ
“คืนของไปแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะจบเรื่อง เพราะคำถามที่ถามไป อภ.ก็ต้องตอบ คือ ผมแก้ไขปัญหาไปส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากให้คนมาเสี่ยงกับเรื่องยา ส่วนวัตถุดิบที่คืนบริษัทไปนั้นได้สั่งการให้ อย.ไปตรวจว่าห้ามนำกลับมาใช้อีก ส่วนจะทำลายทิ้งในประเทศไทยหรือเขาจะเอาคืนกลับประเทศจีนก็เป็นเรื่องของเขา ” นพ.ประดิษฐ กล่าว.



Written by

0 ความคิดเห็น: