ตร."ปากเกร็ด"มอบตัวสู้คดี คลึงอก-ฉกทอง ดาราสาว
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 03.00 น. พ.ต.ต.บุญส่ง รัศมี
สวป.สภ.ปากเกร็ดพร้อมเจ้าหน้าที่นำตัว ด.ต.วีรฤทธิ์ ดวนสูง อายุ 43 ปี
ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม
สภ.ปากเกร็ดมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่สน.วังทองหลาง
หลังพบว่าเกี่ยวข้องกับคดีปล้นทรัพย์-จับอกนักแสดงสาว น้องเอม-เจษยา
ดาราสาวค่ายกันตนา โดยทางเจ้าหน้าที่พยายามพาตัว ด.ต.วีรฤทธิ์ หลบนักข่าว
เข้าไปสอบเครียดในห้องสืบสวนชั้น 3
เบื้องต้นพบว่าด.ต.วีรฤทธิ์รับสารภาพว่าเป็นส่วนหนึ่งในแก๊งดังกล่าว โดยถูกชักชวน ตอนแรกคิดว่าจะมีการจับกุมนักแสดงสาวพร้อมเพื่อนในห้องจริง แต่หลังจากที่จับกุมแล้ว ก็แยกออกไปโดยไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 น. วันเดียวกัน นายเปี๊ยก (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่อีกคน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าไปในห้องสืบสวนทันที และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังคงสอบปากคำนายสุริโย ภูคลองทุ่ง ที่เดินทางมามอบตัวเป็นคนแรกยังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้นายสุริโย เคยมีหมายจับคดีปล้นทรัพย์ที่จ.บุรีรัมย์ อยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล และหลังจากสอบปากคำทำบันทึกการมอบตัวแล้ว ก็จะแจ้งข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันบุกรุก
ขณะที่ด.ต.วีรฤทธิ์ อาจจะโดนตั้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ความผิดตามมาตรา 157
รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้แก๊งคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุทราบข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ที่ห้องของนักแสดงสาวอาจจะมีการจัดปาร์ตี้ยาเสพติด ต่อมามีเพื่อนในกลุ่มของนักแสดงสาวทราบชื่อเพียงว่า “อ็อพ” ซึ่งเป็นทอมบอยได้ติดต่อมาทางคนที่ชื่อว่า “หนึ่ง” ซึ่งเป็นคนกลาง โดยให้ข้อมูลว่า จะมีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดในวันเกิดเหตุ ทาง “หนึ่ง” ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามทราบเพียงว่าชื่อ ด.ต.ไพบูลย์ เพื่อหาทีมงานก่อเหตุ เมื่อหาทีมงานได้ครบจำนวน 5 คนก็ทำการล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 1 กรัม ราคา 2,500 บาท นัดส่งกันที่อาคารเจ ดับบลิว บูเลอวาร์ด โดยนัดทางนักแสดงสาวให้ออกจากห้องมาที่ชั้นล่าง ทางกลุ่มคนร้ายได้รับสัญญาณจาก “อ็อพ” ซึ่งอยู่ในปาร์ตี้วันเกิดเหตุ เมื่อกลุ่มคนร้ายพบกับนักแสดงสาวจึงเข้าจับกุมทันที และพาตัวขึ้นห้อง ก่อนจะถ่ายรูปเก็บหลักฐานและเขียนบันทึกจับกุม หลังจากนั้นมีการเจรจาต่อรองให้ปล่อยตัวนักแสดงและเพื่อนทั้งหมด โดยแลกกับทรัพย์สินบางส่วน ซึ่งทางกลุ่มคนร้ายก็ได้นำทรัพย์สินไปขายเป็นเงิน 230,000 บาท นำมาแบ่งโดยเท่า ๆ กัน ส่วนทองคำ 10 บาทนำไปขายที่จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำเงินมาแบ่งกัน
รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า หลังจากวันเกิดเหตุ ทางนักแสดงสาวก็ได้บอกพ่อว่า ถูกกลุ่มคนร้ายอ้างเป็นตำรวจมาปล้นทรัพย์ ก่อนที่พ่อจะปรึกษานายตำรวจที่รู้จักให้ช่วยจับกุมคนร้าย จึงมีการประสานไปทางกก.สส.บก.น.4 ให้ช่วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของกก.สส.บก.น.4 แนะนำให้ไปแจ้งความก่อน ทางนักแสดงสาวจึงมาแจ้งความ แต่ทาง นายสุริโย เดินทางมามอบตัวและให้ข่าวว่า อ้างว่านักแสดงสาวมีการจัดปาร์ตี้เสพยาไม่ใช่เล่นการพนัน ซึ่งเป็นเรื่องที่นักแสดงสาวไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่คนอื่นเลยแม้กระทั่งเจ้า หน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สน.วังทองหลาง พยายามติดต่อไปทางนักแสดงสาว แต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้จนถึงขณะนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวพยานซึ่งเป็นเพื่อนของนักแสดงสาวซึ่งอยู่ในวัน เกิดเหตุ มาสอบปากคำพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายแต่ละคน เพื่อนำมาเป็นหลักฐานขออำนาจศาลเพื่อขอหมายจับคนร้ายที่เหลืออีก 3 คน เป็นตำรวจ 1 นายคือ ด.ต.ไพบูลย์ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งอยู่กองปราบปราม กับพลเรือน 2 คนคือนายหนึ่งซึ่งเป็นคนวางแผงทั้งหมด และน.ส.อ็อพ ต่อไป ทั้ง 2 คนยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่จะสอบสวนกลุ่มคนร้ายที่มามอบตัว 3 คนเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นพบว่าด.ต.วีรฤทธิ์รับสารภาพว่าเป็นส่วนหนึ่งในแก๊งดังกล่าว โดยถูกชักชวน ตอนแรกคิดว่าจะมีการจับกุมนักแสดงสาวพร้อมเพื่อนในห้องจริง แต่หลังจากที่จับกุมแล้ว ก็แยกออกไปโดยไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 น. วันเดียวกัน นายเปี๊ยก (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่อีกคน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าไปในห้องสืบสวนทันที และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังคงสอบปากคำนายสุริโย ภูคลองทุ่ง ที่เดินทางมามอบตัวเป็นคนแรกยังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้นายสุริโย เคยมีหมายจับคดีปล้นทรัพย์ที่จ.บุรีรัมย์ อยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล และหลังจากสอบปากคำทำบันทึกการมอบตัวแล้ว ก็จะแจ้งข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันบุกรุก
ขณะที่ด.ต.วีรฤทธิ์ อาจจะโดนตั้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ความผิดตามมาตรา 157
รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้แก๊งคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุทราบข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ที่ห้องของนักแสดงสาวอาจจะมีการจัดปาร์ตี้ยาเสพติด ต่อมามีเพื่อนในกลุ่มของนักแสดงสาวทราบชื่อเพียงว่า “อ็อพ” ซึ่งเป็นทอมบอยได้ติดต่อมาทางคนที่ชื่อว่า “หนึ่ง” ซึ่งเป็นคนกลาง โดยให้ข้อมูลว่า จะมีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดในวันเกิดเหตุ ทาง “หนึ่ง” ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามทราบเพียงว่าชื่อ ด.ต.ไพบูลย์ เพื่อหาทีมงานก่อเหตุ เมื่อหาทีมงานได้ครบจำนวน 5 คนก็ทำการล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 1 กรัม ราคา 2,500 บาท นัดส่งกันที่อาคารเจ ดับบลิว บูเลอวาร์ด โดยนัดทางนักแสดงสาวให้ออกจากห้องมาที่ชั้นล่าง ทางกลุ่มคนร้ายได้รับสัญญาณจาก “อ็อพ” ซึ่งอยู่ในปาร์ตี้วันเกิดเหตุ เมื่อกลุ่มคนร้ายพบกับนักแสดงสาวจึงเข้าจับกุมทันที และพาตัวขึ้นห้อง ก่อนจะถ่ายรูปเก็บหลักฐานและเขียนบันทึกจับกุม หลังจากนั้นมีการเจรจาต่อรองให้ปล่อยตัวนักแสดงและเพื่อนทั้งหมด โดยแลกกับทรัพย์สินบางส่วน ซึ่งทางกลุ่มคนร้ายก็ได้นำทรัพย์สินไปขายเป็นเงิน 230,000 บาท นำมาแบ่งโดยเท่า ๆ กัน ส่วนทองคำ 10 บาทนำไปขายที่จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำเงินมาแบ่งกัน
รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า หลังจากวันเกิดเหตุ ทางนักแสดงสาวก็ได้บอกพ่อว่า ถูกกลุ่มคนร้ายอ้างเป็นตำรวจมาปล้นทรัพย์ ก่อนที่พ่อจะปรึกษานายตำรวจที่รู้จักให้ช่วยจับกุมคนร้าย จึงมีการประสานไปทางกก.สส.บก.น.4 ให้ช่วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของกก.สส.บก.น.4 แนะนำให้ไปแจ้งความก่อน ทางนักแสดงสาวจึงมาแจ้งความ แต่ทาง นายสุริโย เดินทางมามอบตัวและให้ข่าวว่า อ้างว่านักแสดงสาวมีการจัดปาร์ตี้เสพยาไม่ใช่เล่นการพนัน ซึ่งเป็นเรื่องที่นักแสดงสาวไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่คนอื่นเลยแม้กระทั่งเจ้า หน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สน.วังทองหลาง พยายามติดต่อไปทางนักแสดงสาว แต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้จนถึงขณะนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวพยานซึ่งเป็นเพื่อนของนักแสดงสาวซึ่งอยู่ในวัน เกิดเหตุ มาสอบปากคำพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายแต่ละคน เพื่อนำมาเป็นหลักฐานขออำนาจศาลเพื่อขอหมายจับคนร้ายที่เหลืออีก 3 คน เป็นตำรวจ 1 นายคือ ด.ต.ไพบูลย์ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งอยู่กองปราบปราม กับพลเรือน 2 คนคือนายหนึ่งซึ่งเป็นคนวางแผงทั้งหมด และน.ส.อ็อพ ต่อไป ทั้ง 2 คนยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่จะสอบสวนกลุ่มคนร้ายที่มามอบตัว 3 คนเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้น
0 ความคิดเห็น: